วันศุกร์, กรกฎาคม 06, 2550

อย่ามัวเสียดายรักห่วยๆของผู้ชายเฮงซวยแค่คนเดียว


แค่ผู้ชายคนเดียวที่ได้เดินเข้ามาในชีวิตของเราแค่ไม่กี่วัน เขาเดินกลับออกไป
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ทำไมต้องเสียใจมากมาย ฟูมฟายอะไรนักหนา
ในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้ชายคนสุดท้ายของโลกใบนี้

แค่ประเทศไทยเพียงอย่างเดียว ก็มีประชาการปาเข้าไปตั้งมากกว่า 60 ล้านคนแล้ว
ถ้าหากมองไปที่ความจริงข้อนี้ เราก็จะเห็นว่า...
เขาเป็นแค่ฝุ่นเล็กๆของเมืองใหญ่ ไม่ได้มีความยิ่งใหญ่อะไรเลย

ยิ่งถ้าหากเป็นฝุ่นเฮงซวย ที่ทำให้เรารู้สึกเคืองตา ระคายจิตใจ จนต้องร้องไห้ด้วยแล้ว
เปล่าประโยชน์ที่จะพิรี้พิไร ทนทรมานตัวเองให้เสียเวลาเปล่า
เปล่าประโยชน์ที่จะเสียดายความรักห่วยๆที่ปลิวเข้าตา
รีบจัดการเขี่ยมันออกไปซะ แม้ว่าอาจจะต้องเสียน้ำตา และเจ็บแปลบอยู่พักหนึ่งก็ตาม
แต่ทันทีที่มันหลุดออกไปได้ เราก็จะมองเห็นอะไรอะไรที่ชัดเจนขึ้น

นั่นเป็นเพราะว่า เราตาสว่างแล้วนั่นเอง

... ... ... ...
บางส่วนจากหนังสือ "ยิ้มให้กับความทุกข์แล้วเราจะมีความสุขที่สุดในโลก"
สำนักพิมพ์ อักขระบันเทิง

ทั้งๆที่เป็นคนเขียนเอาไว้เองว่า "อย่าเสียดาย"
แต่เมื่อคืนฉันกลับทำเรื่องงี่เง่าอีกตนได้
ฉันโทรไปที่บ้านพี่วี...
สี่ทุ่มเศษๆ...เป็นเวลาที่ฉันไม่ค่อยจะได้โทรไปบ่อยนัก (เมื่อก่อนนี้)
เพราะว่าเธอมักจะอยู่ที่ร้านเหล้า กำลังเล่นดนตรี
โทรศัพท์ดังอยู่นาน (ในความรู้สึกของฉัน) กว่าจะมีคนรับ
ฉันบอกไปว่า "ขอสายวี" ฉันไม่เคยเรียกเธอแบบนี้หรอก ...แม่เธอ คนที่รับสายรู้
"เดี๋ยวนะ" แม่เธอบอก ไม่รู้ยังจำเสียงฉันได้มั้ย?
ฉันวางสาย...หัวใจยังสั่น
ไม่ได้พูดกันซักคำ ฉันไม่ยินแม้แต่เสียงของเธอ
เพราะรีบชิงวางสายซะก่อน
แค่นี้ก้อพอแล้ว...แค่ได้รู้ความเป็นไปของเธอ
มันไม่สู้ดีนัก...เธอไม่มีงานที่ร้านเหล้า
ชีวิตไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดี ไม่ได้เป็นอย่างที่เคยทำเป็นปากดีกับฉันไว้
"สมน้ำหน้า" อยากพูด อยากเยาะเย้ย
แต่สุดท้าย...ฉันได้แต่อวยพร และอธิษฐาน
ถึงแม้ว่าเราสองคนจะหันหลังให้กันแบบ...ไม่ค่อยสวยนัก
แต่"ภาพความรัก"ของเราสวยงานเสมอนะ...สำหรับฉัน
บทเพลงที่เธอเขียน ยังอยู่ในหนังสือที่ฉันเขียน
ตัวตนของเธอ ยังอยู่ในหนังสือเล่มใหม่ของฉัน
เป็นของที่ระลึกแห่งความรักของเรา
มันทำให้ฉันรู้ว่า "ถึงยังไงก้อไม่เสียใจที่เคยรักเธอ"

--------------------------------
" All Copyright©Nanthanatcha "