วันศุกร์, กรกฎาคม 13, 2550

ตื่นสาย...โรคร้ายที่ไม่มียารักษา



"ตื่นสาย...โรคร้ายที่ไม่มียารักษา"

ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นให้ต้องไปทำธุระ กว่าฉันจะลุกออกจากเตียงได้ก็ตอนที่ใครต่อใครเขาใช้ชีวิตกันไปครึ่งค่อนวันแล้ว
เป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ตามประสาคนที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้
พ่อแม่คงคิดว่า พอโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันก็คงหาย ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

แต่จนป่านนี้ ฉันก็ยังไม่รู้วิธีแก้ และไม่คิดที่จะโทษพ่อแม่ที่เคยตามใจด้วย
เพราะวันนี้ฉันเป็นโตพอที่จะต้องรู้จักความรับผิดชอบแล้ว

หลายหนที่ฉันต้องอดนอน เพื่อออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เพราะต้องการรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ผลปรากฏว่า ไปทันเวลานัด แต่สมองทำงานแบบขาดๆเกินๆ แทนที่งานนั้นจะออกมาแบบดีที่สุดอย่างที่ตั้งใจ
กลับกลายเป็นแบบขอไปที ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย

เวลาที่ฉันตั้งใจจะตื่นเช้าแบบไม่ต้องรีบร้อนไปไหนทีไร จะมีสายตาหลายๆคู่คอยสบประมาท
แล้วฉันก็มุดหายเข้าไปในผ้าห่มทุกที เวลาที่ได้กลิ่นอุ่นๆของยามเช้า
ตื่นสายก็เลยกลายเป็นอะไรที่แก้ยากกว่านิสัย

แต่วันนึง ในรอบหลายๆเดือนของปี
ทันทีที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ฉันก็ลุกจากเตียงไปอาบน้ำ แล้วเข้าครัวทำข้าวต้มง่ายๆให้ตัวเองกิน เพราะไม่ต้องออกไปทำธุระที่ไหน
เป็นความตั้งใจที่จะตื่นแต่เช้าของฉันเอง

แล้ววันนั้นฉันก็รู้ว่าตอนเช้าไม่ได้มีแค่ความอบอุ่น อ่อนโยน แต่ยังมีพลังชีวิตแห่งการเริ่มต้นมากมายให้ได้สัมผัส
ทำให้ฉันรู้สึกว่าเวลาของตัวเองมีมากขึ้น และรู้สึกสดชื่นในการใช้ชีวิตอย่างบอกไม่ถูก

นอนตื่นสาย เป็นโรคร้ายที่ไม่มียาขนานไหนรักษาได้หายขาด
นอกเสียจากจะเอาชนะตัวเองให้ได้เท่านั้นเอง


--------------------------------
" All Copyright©Nanthanatcha "