วันอังคาร, มิถุนายน 19, 2550

เรื่องของพูห์ หมีสมองเล็ก


เรื่องของพูห์-หมีสมองเล็ก


เดิมทีฉันรู้จักกับพูห์ในนามของหมีพุงโล ท่าทางใจดี เป็นมิตรกับทุกๆคนที่อยู่รอบข้าง มีเพื่อนมากมายอยู่ในป่าร้อยเอเคอร์ และมีเพื่อนรักเป็นหมูสีชมพูตัวน้อย ชื่อพิกเลต
แต่ทันทีที่ฉันได้อ่าน “บ้านมุมพูห์” จบลง ฉันก็ได้รู้ว่าจริงๆแล้วพูห์มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าที่ฉันเคยคาดคิด ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดอยู่เล็กๆที่ได้อ่านวรรณกรรมเล่มนี้ในวัยที่ไม่น่าจะเข้าใกล้กับอะไรที่ถูกจำกัดความว่าการ์ตูนและวรรณกรรมเด็กแล้วก็ตาม แต่ฉันก็ดีใจ ที่ฉันได้ทำความรู้จักกับตัวตนของพูห์ และยิ่งรู้สึกปลาบปลื้มเข้าไปใหญ่ เมื่อชายหนุ่มที่ยื่นหนังสือเล่มนี้ให้บอกว่าฉันมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกับพูห์ และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่สามารถทำให้นักดนตรีผู้ไม่รักอ่านอย่างเขาอ่านได้จบจนเล่มด้วยความเต็มใจ
พูห์ร้องเพลงไม่เก่ง และแต่งเพลงไม่เอาไหน แต่ว่าพูห์ก็ชอบที่จะฮัมเพลงอยู่เป็นกิจวัตร และรักที่จะแต่งกวีนิพนธ์อยู่ตลอดเวลา
ที่ตรงนี้
อบอุ่นดีมีแดดสดใส
เป็นของพูห์
ซึ่งไม่รู้จะทำอะไร
อ้อ...ลืมไป
ของพิกเลตก็เหมือนกัน
และพูห์ก็มักจะถามพิกเลตเสมอว่าเพลงที่เขาแต่งเป็นยังไงบ้าง ถึงแม้ว่าพิกเลตจะไม่เคยให้คำตอบที่เป็นเรื่องจริงจังได้เลยสักครั้งก็ตาม
“ฉันเพียงแต่นึกสงสัย จะเป็นยังไงนะถ้าเรากลับบ้านไปเดี๋ยวนี้เพื่อซ้อมร้องเพลงของนาย แล้วค่อยร้องให้อียอร์ฟังพรุ่งนี้ หรือ หรือวันถัดไป เมื่อเราบังเอิญเจอมัน”
แล้วพูห์ก็มักจะทำตามที่พิกเลตบอกเสมอ เพราะพูห์ไม่เคยคิดว่าผู้เป็นเพื่อนจะแฝงเจตนาร้ายไว้ในถ้อยคำที่พูดจาต่อกัน ดังนั้นพูห์กับพิกเลตจึงไม่เคยมีเรื่องขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้งกันเลยสักครั้ง
ในป่าร้อยเอเคอร์จะมีอาวล์เป็นผู้รอบรู้ประจำป่า พูห์ยอมรับในความไม่รู้ของตัวเองด้วยการไปหาอาวล์เสมอเมื่อพบเจอกับเรื่องที่เกินความสามารถของตัวเอง มันรู้ว่ามันไม่สามารถที่จะอ่านข้อความที่คริสโตเฟอร์ โรบินเขียนไว้ที่หน้าประตูได้ พูห์จึงขอให้อาวล์ช่วยอ่าน เมื่อมันอยากเขียนคำอวยพรวันเกิดให้อียอร์ มันก็ขอให้อาวล์ช่วยจัดการให้ โดยไม่เคยคิดว่าการกระทำแบบนั้นของตนเองจะทำให้คนอื่นดูถูกว่ามันไม่ฉลาดเอาซะเลย พูห์ยอมรับในความฉลาดน้อยของตนเองอย่างจริงใจ
พูห์รักเพื่อน เท่าๆกับที่รักตัวเอง เมื่อถูกคริสโตเฟอร์ โรบินถามคำถามยากๆที่ว่า...
“นายชอบทำอะไรที่สุดในโลก พูห์”
...มันจำเป็นต้องหยุดคิด เพราะถึงแม้การกินน้ำผึ้งจะเป็นสิ่งที่น่าทำมาก แต่มันไม่รู้จะเรียกสิ่งนั้นว่าอะไร และแล้วมันจึงคิดว่า การอยู่กับคริสโตเฟอร์ โรบินเป็นสิ่งที่น่าทำมาก และการมีพิกเลตอยู่ใกล้ๆก็เป็นสิ่งที่อบอุ่นมาก ดังนั้น เมื่อคิดอย่างละเอียดดีแล้วมันจึงบอกว่า
“ที่ฉันชอบมากที่สุดในโลกนี้ทั้งโลกก็คือ ฉันกับพิกเลตไปหานาย และนายพูดว่า อะไรสักนิดหน่อยดีมั้ย? และฉันพูดว่า เอ้อ ฉันไม่รังเกียจอะไรนิดๆหน่อยๆหรอก นายก็เหมือนกันใช่มั้ยล่ะพิกเลต และวันนั้นก็เป็นวันที่ว่ามีเพลงลอยอยู่ข้างนอก และนกกำลังส่งเสียงร้อง”
ถ้าพูห์ตอบว่ามันชอบการกินน้ำผึ้ง เพื่อนรักทั้งสองคนของมันก็จะเสียใจ แต่ถ้าหากพูห์ตอบว่าชอบไปหาคริสโตเฟอร์ โรบิน ก็มีจะมีพิกเลตที่รู้สึกเสียใจ และถ้าพูห์ตอบว่าชอบการอยู่กับพิกเลต คริสโตเฟอร์ โรบินก็จะรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกัน ดังนั้นมันจึงพูดออกไปแบบนั้นได้ ทั้งๆที่สมองของมันเล็กมากเกินกว่าที่จะขบคิดอะไรที่ลึกซึ้งวกวนได้มากมายนัก
พูห์สามารถที่จะรวบรวมสิ่งที่มันชอบที่สุดในโลกสามอย่างไว้ได้ในคำตอบเพียงคำตอบเดียว เพราะพูห์พูดออกไปตามที่พูห์รู้สึกนั่นเอง
มีอะไรมากมายในตัวพูห์ที่พูห์ไม่เคยรู้ว่ามันเป็นแบบนั้นมาก่อน จนเมื่อวิถีชีวิตของมันต้องผ่านไปเจอกับอุปสรรคหรือปัญหา ความสามารถที่พูห์มีจะถูกแสดงออกมาด้วยสัญชาตญาณของมัน พูห์ไม่ทอดทิ้งเพื่อน ในวันที่เกิดน้ำท่วม พูห์ทุ่มเทช่วยเหลือพิกเลตเพื่อนตัวเล็กของมันอย่างสุดแรง นอกจากที่พูห์จะค้นพบสิ่งที่คริสโตเฟอร์ โรบินตั้งชื่อว่า”สมองพูห์”แล้ว มันยังค้นพบความกล้าหาญของตัวเองอีกด้วย
หลังจากที่ฉันได้รู้จักพูห์มากขึ้น ฉันก็หลงรักพูห์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น หลงรักในความสมองเล็ก หลงรักในความจริงใจ หลงรักในการยอมรับตัวเองของพูห์
ฉันไม่ได้ถามเจ้าของหนังสือ”บ้านมุมพูห์”ที่อยู่ในมือ ว่าอะไรหลายๆอย่างในตัวฉันที่คล้ายพูห์นั้นมีอะไรบ้าง แต่ฉันก็ดีใจที่มีเสี้ยวหนึ่งของตัวตนที่ใกล้เคียงกับพูห์อยู่ แม้ว่าสิ่งนั้นจะหมายถึงการเป็นหมีที่สมองเล็กก็ตาม
เพราะเป็นหมีสมองเล็ก ที่มีคนรักมหาศาล
...... ...... ...... ......
ตัวเอียง:คัดลอกจากหนังสือ
หนังสือ:บ้านมุมพูห์

จัดพิมพ์โดย:แพรวสำนักพิมพ์


(บความตีพิมพ์ : นิตยสารไอน้ำ ฉบับที่१९ ปี २५५०)


--------------------------------
" All Copyright©Nanthanatcha "